ลองของหล่อ ทดสอบ BMW 330e M SPORT LCI ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นปรับโฉม 2023

ลองของหล่อ ทดสอบ BMW 330e M SPORT LCI ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นปรับโฉม 2023

ความหมายที่แสดงออกถึงความมุ่งมั่นในการที่จะทำให้รถ BMW ประหยัดเชื้อเพลิง ลดมลพิษ พร้อมสุนทรียภาพของการขับขี่ กลายเป็นจุดเริ่มต้นของยานยนต์พลังงานผสม ก่อนที่จะกลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ การลดขนาดเครื่องยนต์เพื่อลดการปล่อย CO2 ผลพลอยได้ก็คืออัตราสิ้นเปลืองที่ดีขึ้น จากการทำงานแบบผสมผสานของเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้าที่ควบรวมกับระบบเสียบปลั๊กชาร์จไฟ เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับยานยนต์ของ BMW ตั้งแต่ Series-1 ไปจนถึง Series-7 ทุกส่วนของรถยนต์ Plug in Hybrid จากค่ายตราใบพัดฟ้า-ขาวถูกปรับจูนเพื่อยกระดับการขับ ไล่ตั้งแต่ มอเตอร์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงที่ฝังอยู่ในเกียร์ ZF-8HP แบตเตอรี่ใหม่ที่มีความจุมากขึ้น อัตราทดของชุดส่งกำลังที่ถูกเซตใหม่ ชุดเบรกที่มีประสิทธิภาพในการหยุดยั้งซึ่งออกแบบให้เหมาะสมกับแรงบิด ช่วงล่างที่ให้อารมณ์สปอร์ตมากกว่าเดิม รูปทรงของตัวถังที่สวยงาม เมื่อรวมทุกรายละเอียดเข้าด้วยกัน สิ่งที่ได้ก็คือ e Drive i-Performance ซึ่งถูกบรรจุอยู่ใน BMW 330e M Sport รุ่นปรับโฉม LCI ซีดานเล็กพร้อมระบบ Plug in Hybrid ราคา 2,949,000 บาท

BMW 320d M Sport LCI : 2,699,000 บาท 
BMW 330e M Sport LCI : 2,949,000 บาท (คันทดสอบ)
BMW 330Li M Sport LCI : 3,099,000 บาท
BMW 320Li M Sport LCI : 2,759,000 บาท

(รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)

BMW Series-3 G20 รุ่นปรับโฉม 2023 ในประเทศไทยมีให้เลือก 3 เครื่องยนต์คือ 320d M Sport เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตรเทอร์โบ 190 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร ตามด้วย 330Li M Sport ตัวถังช่วงฐานล้อยาว เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร เทอร์โบ 252 แรงม้า และ 330e M Sport คันทดสอบ เครื่องยนต์เบนซินแถวเรียงสี่สูบ ความจุ 2.0 ลิตร เทอร์โบ บวกมอเตอร์ไฟฟ้า และระบบเสียบปลั๊กชาร์จแบบ Plug in Hybrid มีกำลังมากถึง 292 แรงม้า กับแรงบิด 420 นิวตันเมตร การมาถึงของ Series-3 G20 รุ่นปรับโฉม LCI เพียบพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีของระบบขับเคลื่อนและอุปกรณ์อำนวยความสะดวก หน้าตาใหม่ สมกับเป็นซีดานรุ่นปรับปรุงที่ดุดันกว่า Series-3 รุ่นก่อนปรับโฉม 

การขับทดสอบ BMW 330e M Sport นาน 7 วัน บนระยะทางทดสอบทั้งในและนอกเมือง (ขับในเมืองใหญ่อย่าง กรุงเทพฯ และออกทางไกลไปหุบป่าตาด อุทัยธานี) ประมาณ 800 กิโลเมตร BMW 330e มีประสิทธิภาพที่ดี ไม่ได้รองบ่อนเมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Mercedes-Benz C300e AMG Dynamic หรือแม้แต่รถที่มีพลังมากกว่าอย่าง Volvo S60 T8 Twin Engine AWD Plug in Hybrid ประวัติศาสตร์อันรุ่งโรจน์ของ Series-3 ทำให้รถซีดานเสียบปลั๊กชาร์จรุ่นยอดฮิตคันล่าสุดของแบรนด์ตราใบพัดขับได้ดีและเหนือชั้นกว่ารถคู่แข่งในบางจุด การเติมเต็มอารมณ์สปอร์ตให้มากกว่าเดิม โดยเฉพาะการปรับแต่งระบบบังคับเลี้ยวและช่วงล่างใหม่ ช่วงล่างลดทอนความแข็งกระด้างลงเล็กน้อย พวงมาลัยที่มีระยะฟรีตรงกลางน้อยลง และโหมด Extraboost ที่ผสานกำลังทั้งสองระบบทำให้ BMW 330e M Sport เป็นสปอร์ตซีดานกึ่งพลังงานไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพน่าใช้อยู่เหมือนกัน

BMW 330e M Sport LCI 2023 มาพร้อมกับหน้าตาใหม่ที่ดุดันกว่าเดิม ไฟหน้า LED  แบบใหม่ มีไฟ Daytime Running Light ระบบไฟอัตโนมัติ Adaptive LED ใส่มาให้แล้ว ทำงานเนียนและเร็วกว่าเดิม กำลังในการส่องสว่างไกล 500 เมตร มองเห็นในจุดที่ปราศจากแสงไฟส่องถนนได้ดี Adaptive LED ของ 330e LCI ยังสามารถเบี่ยงเบนลำแสงขณะยกไฟสูงเพื่อไม่ให้ไปรบกวนรถที่แล่นสวนมา หรือรถที่วิ่งอยู่ข้างหน้า กระจังหน้าติดตั้งระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ เมื่ออุณหภูมิเครื่องยนต์ยังคงเย็นอยู่ ชุดกระจังจะปิดสนิทแนบแน่นเพื่อช่วยลดแรงต้านทานของกระแสอากาศทำให้ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศของเจ้า G20 มีตัวเลขที่ดีขึ้น ชุดกันชนใหม่ของ M มีดีไซน์ของกรอบพลาสติกสีดำเงา ชิ้นงานพลาสติกแบบเงานั้นทำให้รถดูดุดัน แต่ดูแลค่อนข้างยากและมีโอกาสที่จะเกิดริ้วรอยได้ง่ายกว่าผิวพลาสติกแบบอื่น ใต้กระจังหน้าขนาดใหญ่เป็นช่องรับอากาศทรงรังผึ้ง ฝากระโปรงยกสันนูนไล่จากขอบของกระจังหน้า เจ้า 330e กับ ชุดแต่ง M-Sport ใส่ล้อ M ขอบ 19 นิ้ว ห่อรัดด้วยยางรันแฟลต pirelli p zero ไซส์ 225/40 R19 ที่ล้อคู่หน้า ส่วนล้อหลังซึ่งเป็นล้อขับเคลื่อนแน่นอนว่าต้องใส่ให้ใหญ่กว่าล้อหน้าอยู่แล้วด้วยยางไซส์ 255/35 R19 ยางสปอร์ต P Zero รองรับความเร็วสูงได้ดีแต่ต้องระวังอย่าตกหลุมแรงๆ ไม่งั้นอาจเกิดอาการบวมที่แก้มยางได้ คาลิปเปอร์เบรก M เปลี่ยนจากสีน้ำเงินในรุ่นที่แล้วมาเป็นคาลิปเปอร์สีแดงแบบสี่พอต เบรกหลังแบบซิงเกิ้ลพอตก็ยังใช้สีแดงอีกเช่นกัน

มิติตัวถังของ BMW 330e M Sport LCI มีขนาดความยาว 4,709 มิลลิเมตร กว้าง 1,827 มิลลิเมตร สูง 1,435 มิลลิเมตร ระยะห่างล้อหน้า 1,589 มิลลิเมตร ระยะห่างล้อหลัง 1,604 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 2,851 มิลลิเมตร ปริมาตรในการบรรจุสัมภาระ 480 ลิตร น้ำหนักรถทั้งคันอยู่ที่ 1,740 กิโลกรัม ตัวหนักขึ้นจากชุดแบตเตอรี่และมอเตอร์ไฟฟ้า เมื่อเปรียบเทียบน้ำหนักกับ 330i ปรากฏว่า 330e จะหนักกว่าถึง 205 กิโลกรัม เป็นน้ำหนักของระบบปลั๊กอินไฮบริดที่เพิ่มเข้ามาเพื่อช่วยเสริมประสิทธิภาพของการขับเคลื่อนที่ให้ทั้งแรงบิดและความประหยัด รวมถึงยังปลอดมลพิษ หากชาร์จไฟมาเต็มแบตฯ แล้ววิ่งด้วยมอเตอร์เพียวๆ ไกล 37 กิโลเมตร โดยปราศจากการปล่อยของเสียจากเครื่องยนต์ 

การปรับปรุงของรุ่นปรับโฉม life cycle impulse (LCI) ทำให้ G20 ดูเป็นรถสปอร์ตซีดานเต็มรูปแบบ กันชน M แบบใหม่ที่ทำให้ส่วนหน้าของ 330e โหดกว่าเดิม มุมมองด้านข้างสมส่วนความเป็นรถเยอรมันยุคใหม่ เสาหน้าเอนลาดสอดรับกับผืนหลังคาที่ค่อยๆ ลาดเทลงไปยังส่วนท้าย BMW ออกแบบเสาท้ายของ G20 ให้บางเฉียบ เส้นด้านข้างตัวถังลากจากชายล่างของแก้มข้างไปจนถึงกลางประตูบานหลัง เป็นเส้นนำสายตาที่หมดจดและเฉียบคม มือจับที่เปิดบานประตูสีเดียวกับตัวถัง กรอบกระจกบานประตูหุ้มด้วยวัสดุโลหะสีดำเงา ฝาถังเชื้อเพลิงอยู่ในตำแหน่งด้านขวาซึ่งกลายเป็นของที่คุ้นเคยของนักเลง BMW ไฟท้าย LED ทรงยาวแบบใหม่ ดีไซน์ที่เข้ากับแนวของฝาท้ายได้อย่างกลมกลืน กันชนหลังของ M แบบใหม่ เต็มไปด้วยชิ้นงานพลาสติกสีดำเงาตกแต่งเพื่อเพิ่มความลงตัว รวมไปถึงท่อระบายไอเสียทรงกลมสองท่อแบบแยกฝั่งละท่อ ฝาท้ายมีชิ้นงานพลาสติกสีดำ ยกตัวขึ้นเล็กน้อยแบบสปอยเลอร์หลัง มีส่วนช่วยเหนี่ยวนำกระแสลมมากดลงบริเวณส่วนท้ายเมื่อใช้ความเร็วสูงและเพื่อเพิ่มความสวยงาม

ห้องโดยสารของ BMW 330e M Sport รุ่นปรับโฉม ปรับเปลี่ยนระบบปฏิบัติการใหม่ จาก operating system 7.0 มาเป็น 8.0 หรือ iDrive 8 ถือเป็นการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่คล้ายการปฏิวัติระบบอินโฟเทนเมนท์ของรถทั้งหมด โดยมีทั้งส่วนที่ให้ข้อมูลหลังพวงมาลัยหรือจอภาพมาตรวัด ขนาด 12.3 นิ้ว และ ส่วนควบคุมด้วยระบบสัมผัสหรือจอมอนิเตอร์กลางขนาด 14.9 นิ้ว หลอมรวมทั้งสองจอเข้าเป็นพาเนลเดียวกันและออกแบบให้จอมีลักษณะโค้งเพื่อเอียงเข้าหาคนขับสำหรับการใช้งานที่สะดวกยิ่งขึ้น ความละเอียดของหน้าจอ OS8 เพิ่มเป็น 200ppi มีการอัปเกรดระบบซอฟต์แวร์ใหม่ทั้งหมด เพื่อรองรับกับการเชื่อมต่อ และ การสั่งงานด้วยเสียงที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น ที่ดีงามก็คือ ปุ่มควบคุมทรงกลมแบบ 5 ทิศทางหรือปุ่ม iDrive ยังอยู่เหมือนเดิม ทำให้การเลือกฟังก์ชันการแสดงผลและการปรับแต่งค่าต่างๆของรถทำได้ง่ายเหมือนเดิม เพียงแต่ต้องทำความคุ้นชินกับกราฟิกใหม่ที่มีหน้าตาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง 

ภายในเปลี่ยนแปลงไม่มาก หรือแทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงนอกจากจอภาพแบบใหม่ 330e LCI ตกแต่งประดับประดาด้วยวัสดุที่มีคุณภาพ แดชบอร์ดยังคงใช้โฟมขึ้นรูปหุ้มด้วยหนังสังเคราะห์ ช่วยป้องกันเสียงได้ดีพอสมควร คอนโซลแดชบอร์ด รหัส G20 สร้างความแตกต่างด้วยอุปกรณ์ไฮเทคที่ใช้งานได้จริงและใส่มาให้เยอะจนใช้งานไม่หมด เบาะแบบสปอร์ตปรับไฟฟ้า มีส่วนของเบาะหนุนต้นขาที่ยืดหดได้เหมือนเดิมสำหรับคนขายาว เบาะนั่งหนังแท้ Vernasca เบาะคนขับวางตำแหน่งมาดีและเป็นจุดศูนย์กลางของการเชื่อมโยงกับอุปกรณ์ต่างๆ แดชบอร์ดที่ขึ้นรูปด้วยโฟมหุ้มด้วยหนังสังเคราะห์สีเทาดำ เดินเส้นตัดขอบกึ่งกลางด้วยงานอะลูมิเนียมลาย Tetragon เข้ากับไฟตกแต่งภายใน LED เป็นห้องโดยสารยุคใหม่ของ BMW ที่น่าใช้งานแต่บอกตามตรงว่าจอภาพมาตรวัดแบบใหม่ในระบบ OS8 นั้นอ่านค่าวัดรอบ ความเร็ว สเกลพลังงาน หรืออื่นๆ ได้ยากเหมือนเดิม จากความไม่คุ้นชินกับรูปแบบใหม่ล่าสุดของ OS8 แต่ถ้าใช้งานทุกวันบ่อยครั้งเข้าก็จะคุ้นชินกับความใหม่ของระบบอินโฟเทนเมนท์ 

ระบบเครื่องเสียงรอบทิศทางจัดเต็มด้วยพลังเสียงที่คมชัดจากแอมป์และชุดลำโพงคุณภาพสูงจาก Harman Kardon แบรนด์เครื่องเสียงชั้นเยี่ยมที่ลงมือลงแรงออกแบบเครื่องเสียงและการวางตำแหน่งของลำโพงให้กับค่าย BMW นอกเหนือไปจากแบรนด์เครื่องเสียง B&W ที่มักจะประจำการอยู่ในรถหรูรุ่นใหญ่อย่าง Series-7 G70 และ SAV ไซล์ใหญ่อย่าง X7 สำหรับเจ้า Series-3 LCI จัดความสบายมาให้ด้วยระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์ผ่าน Bluetooth ทำงานเร็ว เชื่อมแค่ครั้งเดียวมันจะจำคุณไปจนวันที่ต้องแยกจากกัน ส่วนช่องเชื่อมต่อ USB จัดมาให้เพื่อนักชาร์จโทรศัพท์จะได้ไม่ต้องสะดุดเพราะแบตฯ หมด อุปกรณ์ใหม่ก็ยังมีมาให้ เช่น ระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย แค่วางโทรศัพท์ไว้มันก็จะชาร์จเองแบบอัตโนมัติ

ซุ้มเกียร์ปรับเปลี่ยนหัวเกียร์ใหม่ กลายเป็นสวิชท์สี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่ใช้นิ้วจับเลื่อนขึ้นลงในตำแหน่ง RND และ D/S หัวเกียร์เล็กจิ๋ว มีดีไซน์ที่เก๋ไก๋ทันสมัยแต่ให้ความรู้สึกแปลกๆเวลาใช้งาน หัวเกียร์ ZF-8HP หน้าตาประหลาดจะอยู่ใน BMW ยุคใหม่เกือบทุกรุ่นยกเว้น M Car ข้างคันเกียร์ด้านซ้ายมีปุ่มควบคุมอยู่เพียบ เช่น ปุ่มแทรคชั่นคอนโทรล ปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์สีเงินยวง ปุ่มควบคุมระบบถอยหลังอัตโนมัติที่มาพร้อมกับกล้องมองภาพ ปุ่มปรับโหมดของการขับเคลื่อน เช่น SPORT / HYBRID / ELECTRIC /  ปุ่มควบคุมระบบเบรก Auto Brake hold ปุ่มกล้องมองรอบคัน ปุ่มระบบช่วยจอดอัตโนมัติ และสวิตช์เบรกมือไฟฟ้า ด้านซ้ายของคันเกียร์ติดตั้งสวิตช์ควบคุมมัลติฟังก์ชันระบบ iDRIVE 8 แบบใหม่เชื่อมโยงกับระบบ BMW live cockpit professional มาพร้อมเมนูภาษาไทยและฟังก์ชันใช้งานเพิ่มเติมที่ใส่เข้ามาให้ใช้กันอย่างนับไม่ถ้วน ที่ชอบก็คือการสั่งงานด้วยเสียงภาษาไทยที่ระบบจะตอบโต้กับคำสั่งได้ดีขึ้น

330e ติดตั้งพวงมาลัยหุ้มหนังแท้ทรงสปอร์ตสามก้านของ M รอบวงอวบอ้วนจับได้กระชับมือจากหนังนุ่มๆ ที่ใช้หุ้มรอบวง ก้านวงทำจากพลาสติกกึ่งเนื้ออะลูมิเนียมสวยงามน่าใช้น่าจับ รูปแบบของพวงมาลัยใน 330e M-Sport ยังเหมือนกับรถ BMW เวอร์ชัน M-Sport ไม่ว่าจะเป็น 330i/ X4 20d / 530i / 530e / X3 20d / X530d และ 45e / 630d แต่เรือธงรุ่นใหม่อย่าง Series-7 รุ่น 740d / 750e และ i7 รวมถึง iX และ XM จะมาพร้อมกับพวงมาลัย M แบบใหม่ แป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift ในพวงมาลัย M ของ 330e มีขนาดใหญ่ใช้งานง่าย แต่เกียร์ ZF8 HP ก็ฉลาดจนไม่มีความจำเป็นจะต้องไปวุ่นวายกับการเปลี่ยนเกียร์เอง สวิตช์มัลติฟังก์ชันที่ด้านขวาของก้านวงให้ปรับตั้งเครื่องเสียง ปุ่มสั่งงานด้วยเสียงและปุ่มเลือกดูข้อมูลการขับขี่ในจอ MID ส่วนสวิตช์ด้านซ้ายมือเป็นปุ่มควบคุมระบบปรับตั้งความเร็วอัตโนมัติ Adadptive Cruise Control

จอภาพแบบใหม่สไตล์พาโนรามาของชุดมาตรวัดและชุดมอนิเตอร์กลางที่รวมกันเป็นจอทรงโค้ง ปรับเปลี่ยนรูปแบบของการแสดงผลหน้าจอได้สามรูปแบบ มีการเสริมด้วยกราฟิกมาตรวัดระดับพลังงานในระบบ Hybrid ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นจอวัดรอบซึ่งย้ายมาอยู่ด้านขวา หรือนำเอาระบบนำทาง ระบบอินโฟเทนเมนท์ ระบบระแวดระวังหรือระบบความปลอดภัย (ที่รวมถึงการแสดงผลของระบบช่วยขับ) มาใส่ไว้ตรงกลางก็ยังได้ มาตรวัดจอภาพตรงหน้าคนขับ จะเปลี่ยนสีไปตามการเลือกใช้โหมดขับเคลื่อน เช่น สีฟ้าสำหรับโหมดไฟฟ้า Electric หรือ Hybrid สีแดงในโหมด Sport  เป็นจอดิจิทัลรุ่นใหม่คอยแสดงผลข้อมูลการขับขี่ด้วยมาตรวัดรอบและมาตรวัดความเร็วที่อ่านค่าได้ค่อนข้างยากจากรูปแบบของกราฟิกบนจอภาพ คุณสามารถนำระบบต่างๆ มาแสดงผลอยู่ตรงกลางระหว่างมาตรวัดทั้งสอง จอภาพมาตรวัด TFT LCD ทำงานร่วมกับจอมอนิเตอร์กลาง สั่งการผ่าน iDrive Controller, Touch Control, Voice Control มาตรวัดแบบใหม่ล่าสุดในโปรแกรม BMW Operating System 8 ติดตั้งในรถ BMW รุ่นใหม่ที่ขายในไทย เช่น New Series 3 New Series-7 X7 IX และ XM 

การออกแบบเครื่องยนต์ไฮบริดและระบบส่งกำลังถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญสูงสุด คุณสามารถครอบครองซีดานที่มีทั้งอัตราเร่งสุดจี๊ดและความประหยัด กับการวิ่งด้วยไฟฟ้าเพียวๆ โดยไม่ปล่อยมลพิษไกลถึง 33 กิโลเมตร ระบบจุดระเบิดและการเชื่อมต่อระหว่างเครื่องยนต์กับระบบไฮบริดถูกปรับตั้งอย่างพิถีพิถัน ชุดจ่ายเชื้อเพลิงแบบยิงตรงไดเรคอินเจคชั่น หัวฉีดไฟฟ้าแรงดันสูง เทอร์โบ Twin Scroll การออกแบบให้ลูกสูบเคลื่อนที่ขึ้น-ลงในกระบอกสูบด้วยแรงเสียดทานต่ำ ควบรวมกับเทคโนโลยีของระบบอัดอากาศ Twin Scroll Turbo ทำให้ BMW330e กลายเป็นซีดานสองบุคลิก ในเมืองกับโหมดไฟฟ้าบนระยะทาง 33 กิโลเมตรที่ปราศจาก CO2 เป็นเรื่องที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม และบนไฮเวย์กับการปลดปล่อยแรงม้าทั้ง 292 แรงม้าออกมาอย่างฉับพลันทันที จากการผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ คือความคิดที่ถูกนำมาปรุงแต่งต่อยอด จนกลายเป็นยานยนต์ปลั๊กอินไฮบริดที่มีประสิทธิภาพ

เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตรเทอร์โบ อัปแรงม้าได้เท่ากับเครื่องยนต์ 6 สูบเรียงในอดีตที่ไม่มีระบบอัดอากาศ มาตรการเข้มในการลดขนาดของเครื่องยนต์ด้วยการลดจำนวนกระบอกสูบ เพื่อลดการปล่อยมลพิษ โดยปรับให้เครื่องยนต์กินเชื้อเพลิงเท่าที่จำเป็น คือประเด็นหลักในการคิดค้นเครื่องยนต์เบนซินรุ่นนี้ 330e คันทดสอบ ที่มีระบบปลั๊กอินไฮบริดพ่วงต่อนั้นวางเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 4 กระบอกสูบ รหัส B48B20B ขนาด 2.0 ลิตร ปริมาตรความจุ 1,998 ซีซี ระบบอัดอากาศเทคโนโลยี TwinPower Turbo ของ BMW ใช้เทอร์โบชาร์จเดี่ยวแบบ Twin-scroll ความกว้างกระบอกสูบ 82.0 มิลลิเมตร ช่วงชัก 94.6 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.2:1 ระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบยิงตรง Direct injection กำลังสูงสุด 184 แรงม้า ที่ 5,000-6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดทำได้ที่ 300 นิวตันเมตร ที่ 1,550-4,400 รอบต่อนาที เป็นแรงบิดที่ราบเรียบและกว้างตั้งแต่รอบต่ำไปจนถึงเกือบ 5,000 รอบต่อนาที ระบบส่งกำลังใช้เกียร์อัตโนมัติฝังมอเตอร์ไฟฟ้าของ ZF รุ่น 8HP แบบ 8 สปีด พร้อมกลไกแมนวล Sport Steptronic ติดตั้งแป้นเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ Paddle Shift ที่พวงมาลัย เครื่องยนต์วางตามยาวในสไตล์ที่คุ้นเคยของ BMW และขับเคลื่อนด้วยล้อคู่หลัง ตัวเลขปล่อย Co2 เมื่อเครื่องยนต์และระบบไฮบริดทำงานพร้อมกันอยู่ที่ 37-43 กรัมต่อกิโลเมตร มาตรฐานมลพิษ EURO 6

ระบบปลั๊กอินไฮบริดของ 330e ประกอบด้วยแบตเตอรี่แบบใหม่ที่มีความจุ 10.79 kWh มากกว่าเดิมพอสมควร ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าที่ซ่อนตัวอยู่ในเกียร์ 8 สปีด หรือ Electric motor power มีกำลังรวม 113 แรงม้า พร้อมแรงบิดที่ปราศจากอาการรอรอบที่ 265 นิวตันเมตร เมื่อรวมทั้งสองระบบเข้าด้วยกัน BMW 330e M Sport Plug in Hybrid จะมีกำลังมากถึง 292 แรงม้า กับแรงบิด 420 นิวตันเมตร ตัวเลขสมรรถนะ เร่งจาก 0-100 ใน 5.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เรื่องที่น่าทึ่งก็คือการทำงานของเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด อัตราทดเกียร์สูงออกแบบให้ช่วยประหยัดเชื้อเพลิง สมองกลควบคุมการทำงานของระบบเกียร์ที่เชื่อมต่อกับโหมดการขับเคลื่อนทำให้เกียร์มีพฤติกรรมการตอบสนองที่หลากหลายไปตามโหมดที่ปรับตั้ง โหมดไฟฟ้าสามารถเชื่อมต่อกับเครื่องยนต์ได้อย่างฉับพลันทันทีเมื่อคนขับกดคันเร่งลงจนสุด ส่วนโหมด Adaptive เครื่องยนต์จะผสมผสานการทำงานร่วมกับมอเตอร์ไปตามการกระตุ้นด้วยองศาของคันเร่ง กดลึกๆ ทั้งสองระบบจะทำงานพร้อมกัน สร้างแรงดึงยาวเหยียดที่น่าประทับใจมากกว่า 330i ด้วยการเร่งความเร็วที่ต่อเนื่อง ตอบสนองอย่างว่องไวต่อการเร่งแซง แทบไม่มีอาการรอรอบ

พวงมาลัยไฟฟ้า BMW servotronic แปรผันน้ำหนักไปตามความเร็วและโหมดของการขับเคลื่อน ระบบเบรกของ 330e M-Sport ได้ชุดเบรก BMW M Performance Brakes ด้านหน้าคาร์ลิปเปอร์เบรกของ M แบบ 4 พอต สีแดงส่วนด้านหลังเป็นแบบซิงเกิลพอต เส้นผ่าศูนย์กลางจานเบรกหน้า 330 มิลลิเมตร หลัง 315 มิลลิเมตร ช่วงล่างด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สัน สตรัท สปริง โช้คอัพและเหล็กกันโคลง ด้านหลังเป็นแบบมัลติลิงก์ รูปแบบเดิมของช่วงล่างมีการปรับค่าการทำงานของโช้คอัพและสปริงใหม่ ตามรูปแบบของ LCI ที่ถือเป็นรุ่นสุดท้ายก่อนการเปลี่ยนโฉมที่ต้องมีการสอดประสานการทำงานอย่างสมบูรณ์แบบ

330e M Sport Plug in Hybrid ที่มีกำลังมากถึง 292 แรงม้า กับแรงบิด 420 นิวตันเมตร จากการกระหน่ำของ EXTRABOOST ราคา 2,949,000 บาทของมัน จะต้องฟาดฟันกับคู่แข่งสายโหดอย่าง Mercedes-Benz C300e AMG Dynamic ราคา 2,990,000 บาท ซึ่งเจ้าเล็กตราดาวคันนี้วางเครื่องยนต์ 2 ลิตรพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าที่สามารถสร้างแรงบิดกระหน่ำอย่างโหดได้มากถึง 700 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 ของ C300e ก็ยังสูสีกับ 330e ที่ 5.9 วินาที เทคโนโลยีที่ทันสมัยใน 330e ไม่เป็นรองเด็กตราดาว แต่ความมาดมั่นและประสิทธิภาพของระบบรองรับที่เซตมาใหม่แบบเอาใจนักขับ จะทำให้คุณรู้สึกดีกับ 3-Series รุ่นเสียบปลั๊ก! การขับที่ถูกยกระดับมาตรฐาน ความหรูหราและสบาย เป็นสปอร์ตซีดานไซส์เล็กที่มีพิษสงร้ายกาจในด้านอัตราเร่ง รูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวมากกว่าเดิมและดูเป็นรถของผู้ชายมากกว่า 330e รุ่นที่ผ่านมา การปรับจูนช่วงล่างและชุดบังคับเลี้ยวใหม่ ฝาท้ายไฟฟ้าก็ทำให้การขนสัมภาระสะดวกกว่าเดิม พร้อมภายในใหม่ที่ให้ความรู้สึกพรีเมียม แม้หน้าปัด TFT แบบใหม่จะคอยหลอกหลอนในเรื่องของการมองวัดรอบแต่ความสนุกหลังพวงมาลัยช่วยกลบเกลือนเรื่องมาตรวัดอ่านค่ายากหรือไม่ก็ต้องเลือกปรับการแสดงผลมาตรวัดที่คุณคิดว่าอ่านค่าได้ถนัดมากที่สุดเอาเอง

บนทางหลวงชนบท จากอำเภอหันคา ในจังหวัดชัยนาท มุ่งหน้า อำเภอลานสักในจังหวัดอุทัยธานี ในโหมด SPORT เพื่อดูการตอบสนองของระบบต่างๆ 330e เป็นรถซีดานที่ดึงหนักอย่างโหดโดยเฉพาะการกดเลือกใช้โหมด Extraboost ที่ซ่อนตัวอยู่ในโหมด Sport คุณต้องกดสวิตช์โหมด Sport สองครั้งเพื่อเข้าสู่โหมดบ้าพลังอย่าง Extraboost ฝูงม้าทั้ง 292 ตัวทั้งมอเตอร์และเครื่องยนต์ที่คอยกระหน่ำเทแรงบิดจนไหลทะลักออกมาอย่างต่อเนื่อง คุณสามารถลากรอบเล่นได้หากมีที่ว่างข้างหน้ามากพอก็กดคันเร่งให้จมมิดได้เลย Extraboost นอกจากจะเป็นโหมดสูงสุดแล้ว ยังไปเปิดท่อ bypass valve ของระบบระบายไอเสีย เสียงท่อที่เคยเงียบหรือติ๋มๆ หงิมๆ ในโหมดอื่น เจ้า Extraboost จะเปลี่ยนเป็นเสียงท่อของรถแต่งในทันทีทันใดที่คันเร่งถูกกระตุ้น ประสิทธิภาพในการเทแรงบิดจากเครื่องยนต์ผ่านระบบเกียร์ 8 สปีด ออกมาในแบบกระชากกระชั้นดันไปข้างหน้า มันสามารถไต่ความเร็วได้ดีมากจนต้องใช้ความระวัง

อัตราเร่ง 0-100 ไม่ถึง 6 วินาที ถือว่าเร็วแล้ว แต่ก็ยังไม่ทำให้เกิดอาการขนหัวลุกหรือเสียวสันวาบ หลังเท่ากับการพุ่งทะยานอย่างบ้าคลั่งของ Series-3 รุ่นที่แรงกว่าอย่าง M340i xDrive แรงฉุดลาก 420 นิวตันเมตรโดยปราศจากอาการรอรอบของ 330e หมายถึงการเร่งความเร็วที่สูสีกับรถสปอร์ตคูเป้คันเล็ก เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งการขับแบบรีบเร่งหรือขับเรื่อยๆในเมือง ช่วงล่างที่ปรับจูนมาอย่างลงตัว เพราะนำเอาจุดด้อยของรุ่นก่อนปรับโฉมมาแก้ใขให้ดีขึ้น ทำให้ 330e เป็นรถปลั๊กอินไฮบริดที่ขับสนุกและยึดเกาะกับถนนสมกับความเป็น Series-3 ที่ไม่ทำตัวน่าเบื่ออีกต่อไป จากการตอบสนองที่ว่องไวของมัน ระหว่างรอบเครื่องยนต์ 2,000-4,500 รอบซึ่งเป็นช่วงที่เทอร์โบ TwinScroll เริ่มต้นการการบูสพลัง

การเร่งเครื่องบนถนนที่มีทางตรงยาวๆ สลับกับโค้งมุมกว้าง สอดรับกับการทำงานของช่วงล่างและชุดบังคับเลี้ยวได้อย่างน่าทึ่ง เส้นทางไม่ได้น่ากลัวเท่ากับทางแถวพุเตยไปบ้านไร่และแก่นมะกูดที่อุดมไปด้วยทางโค้งขึ้นลงเนินเขาวกไปวนมา ผมเลี้ยงรอบเอาไว้ในช่วงหัวโค้ง ให้รอบเครื่องยนต์คาอยู่ในระดับความเร็วที่เหมาะสมกับสภาพของโค้ง แล้วลองกระแทกคันเร่งสวนในจังหวะที่ส่วนหัวของเจ้า 330e LCI  กำลังจะพุ่งออกจากปลายโค้ง คุณจะพบกับแรงเหวี่ยงหนีศูนย์กลางที่ทำให้สนุก การยึดเกาะที่มาดมั่นจนอยากจะไปให้เร็วมากกว่าเดิม ช่วงล่างที่เซตมาอย่างลงตัวกับยางสปอร์ตแก้มแข็งโป๊กที่ใส่เข้ามาให้เพื่อสร้างแรงยึดเกาะและป้องกันอาการบิดตัวของแก้มยาง ทำให้เกิดความสนุกทุกครั้งที่ขับเข้าสู่โค้งยาวๆ และเมื่ออยากจะขับแบบเรื่อยๆ หากชาร์จไฟมาจนเต็ม BMW เคลมว่า 330e สามารถวิ่งด้วยมอเตอร์เพียวๆ ไกล 45-50 กิโลเมตร แต่เมื่อลองขับใช้งานจริง ด้วยความเร็วคงที่ 80-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มันวิ่งบนด่วนอุดรรัถยาไกลเกือบ 37 กิโลเมตร เป็นรถปลั๊กอินที่ทำระยะทางจากพลังไฟในแบตฯ ได้ไกลพอใช้ แต่ถ้าจะให้ดี ควรทำได้เฉียดๆ  100 กิโลเมตร จะดีกว่านี้มาก

เครื่องยนต์ของมันมีพื้นฐานมาจากเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร ปลั๊กอินไฮบริดของ BMW 740Le X5 xDRIVE40e และ 330e โฉมที่แล้ว แต่ก็เป็นเครื่องยนต์ที่ถูกสร้างใหม่ ด้วยการนำจุดด้อยมาปรับปรุงการทำงานให้ดีขึ้น ระบบ Plug in Hybrid มีมอเตอร์เสริมแรงบิดขั้นอยู่ตรงกลางระหว่างเครื่องยนต์และชุดเกียร์ ZF8HP ทำให้ 330e มีนิสัยดุร้าย มีกำลังสูงและทำอัตราเร่งได้อย่างว่องไว อย่างที่บอกว่า Extraboost Mode นั้นให้ซุ่มเสียงราวกับรถซิ่งและไม่มีอาการรอรอบของเทอร์โบเนื่องจากการกระหน่ำอย่างโหดของมอเตอร์ไฟฟ้าที่คอยช่วยเสริมแรงบิด แรงดึงในช่วงออกตัว เป็นเครื่องยนต์ 2 ลิตร เทอร์โบ พ่วงปลั๊กอินไฮบริดที่เร็วเกินคาดและลากรอบต่อเนื่องได้อย่างไหลลื่น โหมด Extraboost ต้องการพื้นที่ข้างหน้าโล่งๆ และไม่เหมาะกับการกดใช้งานในเมืองที่มีสภาพการจราจรหนาแน่น เพราะคุณจะพุ่งทะยานอย่างเร็วแล้วก็ต้องเบรกหนักๆ ไปตลอดทาง แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร ลากกันยาวได้ที่ 6,500 รอบต่อนาที 330e ทุกคันจะมาพร้อมกับระบบเกียร์ 8 สปีดของ ZF ที่ทำงานได้ดีสูสีกับเกียร์ 9 สปีดของ Mercedes-Benz

เกียร์ ZF 8HP ฝังมอเตอร์ไฟฟ้าคั่นเอาไว้ตรงกลางระหว่างเครื่องยนต์และชุดเฟืองเป็นชุดส่งกำลังที่ทำให้รู้สึกได้ถึงพลังจากแรงดึง หัวเกียร์แบบใหม่ใน New Series-3 330e มีหน้าตาแปลกประหลาดคล้ายหัวไม้ 5 หรือหัวไม้กะเทยของวงการกอลฟ์ แต่ออกแบบให้จับได้อย่างเต็มมือ เมื่อผลักคันเกียร์เข้าสู่โหมดแมนวล การตอบสนองของเกียร์ออกอาการคล้ายรถเกียร์ธรรมดา แป้นเปลี่ยนเกียร์ขนาดใหญ่ก็ใช้งานได้ดี ใช้ปรับตำแหน่งเกียร์ผ่านปลายนิ้วบนเส้นทางภูเขา เกียร์ 8 สปีดมีอัตราทดที่กว้างและครอบคลุมกำลังแรงบิดจากเครื่องยนต์ ทำงานร่วมกับโหมดการขับเคลื่อน 5 รูปแบบ เช่น SPORT ที่ผังโหมดแยกย่อยอย่าง STANDARD XTRABOOST และ INDIVIDUAL โหมด HYBRID ที่มีโหมดย่อยอย่าง STANDARD HYBRID และ ECO HYBRID โหมด ELECTRIC เมื่อแบตฯ เต็มมันจะวิ่งด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าล้วนๆ โดยไม่ปล่อยมลพิษ ส่วนโหมด ADAPTIVE คอมพิวเตอร์ส่วนกลางที่คอยควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์และระบบเกียร์รวมไปถึงระบบ Hybrid จะปรับการตอบสนองไปตามสภาวะของการขับขี่

ระบบควบคุมการทรงตัวของ 330e มีประสิทธิภาพที่ดีและทำงานอย่างรวดเร็วเพื่อช่วยลดอาการเสียการทรงตัว อัตราทดของพวงมาลัยไฟฟ้าแปรผันที่ปรับมาให้ทำงานอย่างฉับไว กับช่วงล่างแบบสปอร์ต ช่วยทำให้ 330e มีสีสันมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะแฮนด์ลิ่งที่เฉียบคม ไม่กระทบกระเทือนกับความมั่นคงหรือความสบายเมื่อขับเร็ว ช่วงล่างที่แข็งขึ้นก็รับมือกับโค้งมุมแคบได้ดีขึ้น การถ่ายเทน้ำหนักที่ถือเป็นกลไกไดนามิกส์สำคัญของรถยนต์จากแบรนด์ BMW ทำให้คุณควบคุมมันได้ง่ายขึ้น 330e แม้จะให้ความรู้สึกแข็งกระด้างเมื่อวิ่งผ่านถนนที่ไม่เรียบ แต่ช่วงล่างถูกปรับปรุงให้สื่อสารกับยางได้อย่างกลมกลืน สอดรับกับสภาพเส้นทางที่อุดมด้วยโค้ง การกระจายน้ำหนัก 50/50 หน้า-หลังเท่ากัน ติดอกติดใจไปตามๆ กันเมื่อพบกับการเลี้ยวเร็วๆ ในโค้งที่มีความมั่นคงแน่นอนไม่ส่ายไปมาหรือโคลงจนทำให้รู้สึกแย่ แชสซีและช่วงล่างของ G20 นั้นมีความสปอร์ตมากกว่า F30 โดยเฉพาะการเซตระบบรองรับของ 330e ที่มีความมาดมั่นมากเป็นพิเศษ

เมื่ออัดหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ บนโค้งยาว อาการอันเดอร์สเตียร์บางๆ เริ่มเกิดขึ้น ระบบช่วยทรงตัว ช่วงล่างแบบสปอร์ต และยาง eagle f1 run flat สามารถรับมือได้ดี ปราการด่านสุดท้ายของมันก็คือ ระบบช่วยทรงตัวที่เข้ามารับหน้าที่สอดแทรกในบางจังหวะที่ใส่มาแรงเกินไปในโค้ง ในความเป็นจริง ถ้าคุณมีฝีมือให้การควบคุมรถน้องๆ เกจิอาจารย์ก็สามารถปิดระบบช่วยทรงตัวได้เลย 330e จะดิบขึ้นและเริ่มทำตัวดุร้ายด้วยการกวาดท้ายหากใส่โค้งมาแรงเกินไป มันมีกำลังมากพอที่จะปั่นล้อให้ฟรีทิ้งได้ อาจไม่มากเท่ากับ M340i ที่ไม่มีขายในไทย แต่ก็สามารถทำให้คุณเสียวสันหลังได้ก็แล้วกัน โค้งยูเทิร์นแสดงให้เห็นถึงการยึดเกาะของช่วงล่างและความเจ๋งของชุดบังคับเลี้ยว มันเป็นรถที่เลี้ยวกลับลำได้เร็วและคล่องตัว พวงมาลัยแม่นยำ มีน้ำหนักที่ดีเลิศในทุกย่านความเร็วแต่ออกจะหนักกว่า F30 รุ่นพี่ ส่งถ่ายความรู้สึกได้ชัดเจนมากกว่า C-Class อย่างไรก็ตามยังมีคนที่ไม่ชอบความอวบอ้วนรอบวงพวงมาลัย M แต่ผมกลับรู้สึกดีเพราะจับถือได้สะดวกมือดีมาก พวงมาลัยเป็นอุปกรณ์ที่คุณจะต้องจับไปตลอดการขับ หากมันทำออกมาไม่ดีพอมีหวังจบเห่ พวงมาลัย M นั้นปรับแต่งมาสวยงามทุกรุ่น โดยเฉพาะพวงมาลัยสามก้านทรงผอมบางของ F30 รุ่น M-Sport แต่ความอวบอัดและใหญ่โตของพวงมาลัย M ใน 330i G20 ใช้งานจริงได้ดีกว่านิดๆ

สรุปสั้นๆ ว่า ถ้าชาร์จไฟจนแบตฯ ลิเธียมเต็ม คุณจะวิ่งได้เฉียดๆ 40 กิโลเมตร บนความเร็วสลับไปมาระหว่าง 80-140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ถ้าแช่ 140 นานไปหน่อยเพราะความเพลิน แบตฯ จะมีพลังไฟร่อยหรอลงอย่างรวดเร็ว ไฟหน้าที่มาพร้อมระบบไฟอัตโนมัติ Adaptive LED ทำงานเร็วและฉลาดกว่าเดิม หลังคากระจกซันรูฟมีไว้เท่ๆ แต่ไม่ค่อยได้เปิดใช้งานเท่าที่ควรจากสภาพอากาศและฝุ่นควันที่ไม่เป็นใจ เครื่องเสียงดีมาก คมชัดและมีกำลังขับเหลือเฟือ กล้องมองภาพรอบคันก็คมชัด ระบบช่วยจอดอัตโนมัติทำให้การเข้าจอดในที่คับแคบสะดวกขึ้น มันสามารถบันทึกการขับแล้วถอยหลังซ้ำที่เดิมแบบอัตโนมัติได้ไกล 30 เมตร เหมาะกับตรอกซอกซอยเล็กๆ ถังเชื้อเพลิงเล็กนิดเดียวแค่ 40 ลิตร มีน้ำมันเหลืออยู่ 1/4 เติม 700-800 บาท ก็แทบจะล้นออกมานอกถัง มันเป็นสปอร์ตซีดานที่พอขับช้าลงก็มีความประหยัดในระดับที่น่าประทับใจ แต่คุณจะไปประหยัดทำไม ในเมื่อต้องจ่ายเงินมากถึง 2.9 ล้าน เพื่อแลกกับรถเยอรมันที่แรงและสะอาด มั่นใจกว่ารถยนต์ไฟฟ้าที่ต้องจองจุดชาร์จและรอการชาร์จไฟอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง เติมน้ำมันแค่ 3 นาทีก็เต็มถังแล้วออกเดินทางต่อได้อีกเกือบๆ 500 กิโลเมตร เป็นรถ 4 ประตูที่ใช้วิ่งทางไกลได้อย่างมั่นใจและสนุก เจ้าของ 330e ส่วนใหญ่ไม่ได้ซื้อมันมาเพื่อคลานอยู่แต่ในเมือง ลองเสียบปลั๊กชาร์จไฟให้ติดเป็นนิสัยแล้วพามันออกไปไกลๆ คุณจะชอบมันมากกว่าพาหนะทุกคันในโรงรถของคุณ.

330e M Sport (M Performance Edition)
Technical data
Engine BMW TwinPower Turbo 4-cylinder petrol engine
Displacement (cm³) 1,998
Engine power 135 kW/ 184 hp/5,000 – 6,500 rpm
Engine torque 300 Nm/ 1,350 – 4,000 rpm
Electric motor power 83 kW/ 113 hp
Electric motor torque 265 Nm
Electrical range1 , NEDC (km) 59
High voltage battery energy content 12 kWh
System output 215 kW/ 292 hp
System torque 420 Nm
Top speed 230 km/h
0 – 100 km/h 5.9 S
Electric energy consumption, NEDC 16.42 kWh/100 km
Combined fuel consumption from ECO Sticker result 47.6 km/l
Combined CO2 48 g/km
Wheels 19” M light alloy wheels double-spoke style
Tyre size Front: 8J × 19 / tyres 225/40 R19
Rear: 8.5J × 19 / tyres 255/35 R19
(Runflat tyres)
Length / width / height (mm) 4,709 / 1,827 / 1,444
Luggage capacity 375 L
Curb weight 1,740 kg
Transmission and technology 8-speed Steptronic Sport transmission with gearshift paddles 
Adaptive M suspension 
Variable sport steering 
Active cruise control with Stop&Go function 
Driving Assistant 
BMW Head-up display 
Parking Assistant Plus 

Exterior
LED headlights with extended contents 
Adaptive LED
ระบบปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติ (High-beam Assistant)
M Sport brake Red 
Automatic operation of tailgate 
Comfort access system 
Glass roof, electrical 
M Aerodynamics package 
BMW Individual high-gloss Shadow Line 
M Sport Pro

Interior
Interior and exterior mirrors with automatic anti-dazzle function 
Seat adjustment, electric, with memory 
Sport seats for driver and front passenger 
M Sport leather steering wheel 
Instrument panel in Sensatec 
Ambient light 
BMW Individual headliner anthracite 
Interior trim finishers Aluminium Tetragon 
Automatic air conditioning 
Storage compartment package 
Entertainment and communication
BMW Live Cockpit Professional 
BMW ConnectedDrive 
BMW Gesture Control 
Harman Kardon surround sound system

Safety
Airbag for driver and front passenger 
Side airbags for driver and front passenger 
Head airbags for all 4 outer seats 
Teleservices 
Intelligent Emergency Call 
Dynamic Stability Control (DSC) 
Dynamic Traction Control (DTC) 
Dynamic Brake Control (DBC) 
Anti-lock Brake System (ABS) 
Brake Assist (BA) 
Cornering Brake Control (CBC) 
Crash sensor 
Side impact protection 
Park Distance Control (PDC) 
Surround view camera 
Line / package
Front splitter black high gloss 
Front splitter pro carbon (Left & Right) 
Illuminated grille 
Carbon mirror caps 
LED door projector 
Rear spoiler carbon 
Rear diffuser carbon

ผู้นำเสนอข่าว

Lemon

Written by:

720 Posts

View All Posts
Follow Me :

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

You May Have Missed