ชาวบ้านดาหลำ อ.ละงู จ.สตูล ออกเก็บมะม่วงหิมพานต์ขายได้ กก.ละ 50 บาท และนำไปทำแกงปัจรี ที่อาหารพื้นบ้าน โดย 1 ปี มีลูกยาร่วงให้กินครั้งเดียว ลักษณะคล้ายแกงกะหรี่ไก่ แต่จะแห้งและรสเข้มกว่า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเข้าสู่ฤดูแล้งของทุกปี ชาวบ้านที่บ้านดาหลำ ม.5 ต.เขาขาว อ.ละงู จ.สตูล จะชวนลูกหลานออกมาเก็บผลมะม่วงหิมพานต์ ซึ่งกำลังออกผลดกในช่วงนี้ โดยส่วนใหญ่จะเก็บไปทำอาหาร และเก็บไปขาย ซึ่งราคาผลมะม่วงหิมพานต์อยู่ที่ กก.ละ 50 บาท ทำให้ชาวบ้านมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ เพราะแต่ละวันเก็บได้ 10-30 กก. เลยทีเดียว
มะม่วงหิมพานต์ หรือที่ชาวบ้าน จ.สตูล เรียกว่า “ลูกยาร่วง” นอกจากเก็บนำไปขายแล้ว ชาวบ้านยังนำผลไปทำเป็นอาหารได้หลากหลาย เช่น แกงปัจรี แกงคั่ว ยำ หรือนำไปคั้นน้ำออกแล้วแช่ในน้ำหวานกินกับน้ำแข็ง อากาศร้อนๆ กินแล้วชื่นใจ โดยเฉพาะแกงปัจรีมะม่วงหิมพานต์หรือที่ชาวบ้านเรียก ปัจรียาร่วง นั้นเป็นอาหารพื้นเมืองของ จ.สตูล ที่ 1 ปีมีให้กินกันครั้งเดียวช่วงฤดูที่มะม่วงหิมพานต์ออกมากเท่านั้น
นางมาหนูน โพธิ์ดก ชาวบ้านดาหลำ กล่าวว่า ปัจรียาร่วง เป็นแกงโบราณ ที่ชาวบ้านในพื้นที่ทำกินกันมานานแล้ว แต่ที่ไม่ได้ทำบ่อยเนื่องจากลูกยาร่วงจะออกผลให้กินปีละ 1 ครั้ง ก่อนหน้านี้ผลยาร่วงไม่ค่อยมีใครสนใจ ส่วนใหญ่จะเอาแต่เมล็ดเพื่อเอาไปขายหรือไปคั่วกิน ชาวบ้านจะปล่อยให้ลงเต็มโคนต้น แต่ในช่วง 5 ปีหลังที่ต้นยาร่วงเริ่มสูญหายทำให้ผลยาร่วงมีราคามากขึ้น ตามท้องตลาดจะขายกัน กก.ละ 50 บาท บางแห่งใส่จานขาย 5-6 ผลจานละ 20 บาท
ส่วนวิธีการทำแกงปัจรียาร่วงนั้น ต้องเอาผลมาล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้น ต้มให้หมดความฝาด แล้วบีบน้ำออก จากนั้นนำเครื่องแกง เคี่ยวกับกะทิ จนแตกมัน ใส่มะพร้าวคั่วตำละเอียด ใส่ผลยาร่วงแล้วผัดให้เข้ากัน เติมน้ำกะทิให้ขลุกขลิกใส่น้ำตาลทรายชิมรสให้หวานนำเค็มเล็กน้อย เมื่อเครื่องแกงกับเนื้อยาร่วงเข้ากันดี นำมากินกับข้าวร้อนๆ อร่อยมาก ซึ่งแกงปัจรีนั้นในช่วงที่ไม่ใช่ฤดูลูกยาร่วง สามารถใช้มะเขือยาว สับปะรด สำหรับแกงปัจรีนั้นลักษณะจะคล้ายๆ กับแกงกะหรี่ไก่ แต่จะมีความแห้งและรสชาติเข้มข้นกว่า ซึ่งมะม่วงหิมพานต์ หรือลูกยาร่วงนั้นเมื่อนำไปทำแกงปัจรี จะให้เนื้อสัมผัสคล้ายกับไก่ แต่จะมีความนุ่มและอร่อยกว่า.
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/