กำไรแน่น การบินไทย โชว์งบไตรมาสแรกพุ่ง 1.25 หมื่นล้านบาท ผลปรับโครงสร้างหนี้-ขายสินทรัพย์

กำไรแน่น การบินไทย โชว์งบไตรมาสแรกพุ่ง 1.25 หมื่นล้านบาท ผลปรับโครงสร้างหนี้-ขายสินทรัพย์

บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ประกาศงบการเงินของบริษัทฯ และบริษัทย่อย สำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2566 ซึ่งผ่านการสอบทานจากผู้สอบบัญชีแล้ว บริษัทมีกำไรสุทธิ จำนวน 12,523 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 15,766 ล้านบาท โดยเป็นกำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 12,514 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 5.73 บาท ในขณะที่ปีก่อนขาดทุนต่อหุ้น 1.49 บาท จากมีรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว ส่วนใหญ่เกิดจากกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ กำไรจากการขายสินทรัพย์ ละกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ โดยในไตรมาสที่ 1/66 มีรายการเกิดขึ้นครั้งเดียวสุทธิ เป็นรายได้รวม 2,987 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 945 ล้านบาท

โดยมี EBITDA หลังหักเงินสดจ่ายหนี้สินตามเงื่อนไขสัญญาเช่าเครื่องบิน รวมค่าเช่าเครื่องบินที่คำนวณจากการใช้เครื่องบินที่เกิดขึ้นจริง (Power by Hour) เป็นกำไรจำนวน 14,054 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 15,431 ล้านบาท

บริษัทมีรายได้รวมทั้งสิ้น 41,507 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 30,326 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 271.2% สาเหตุหลักเกิดจากรายได้จากการขนส่งผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 30,502 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 681.5% เนื่องจากไตรมาสนี้บริษัทให้บริการเที่ยวบินขนส่งผู้โดยสารในตารางการบินฤดูหนาวปี 2565-2566 รองรับการเดินทางของผู้โดยสารสู่ 34 เส้นทางบินทั่วโลก ทั้งยุโรป ออสเตรเลีย และเอเชีย พร้อมเพิ่มความถี่เที่ยวบินในเส้นทางบินยอดนิยม โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่น และประเทศเกาหลีใต้

ขณะเดียวกัน ช่วงสิ้นสุดไตรมาสที่ 1/66 บริษัทมีเครื่องบินที่ใช้ทำการบินทั้งสิ้น 65 ลำ โดยมีอัตราใช้ประโยชน์ของเครื่องบิน 123 ชั่วโมง มีปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร (ASK) เพิ่มขึ้น 121.4% ปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร (RPK) เพิ่มขึ้น 469.2% อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Carbin Factor) เฉลี่ย 83.5% สูงกว่าปีก่อนซึ่งเฉลี่ยที่ 32.5% และมีจำนวนผู้โดยสารที่ทำการขนส่งรวมทั้งสิ้น 3.52 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 245.1% ส่งผลให้ผลการดำเนินงานไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวในไตรมาสที่ 1/66 บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนต้นทุนทางการเงิน 13,034 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 16,201 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 511.6%

นอกจากนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2566 บริษัทฯ เริ่มกลับมาเปิดเส้นทางบินสู่สาธารณรัฐประชาชนจีน ประกอบกับมีรายได้จากการบริการอื่นๆ เพิ่มขึ้น 621 ล้านบาท (46.4%) จากเที่ยวบินลูกค้าที่เพิ่มขึ้น และมีค่าใช้จ่ายรวมทั้งสิ้น 28,473 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 14,125 ล้านบาท (98.4%) สาเหตุหลักจากค่าใช้จ่ายดำเนินงานที่แปรผันตามปริมาณการผลิตและ/หรือปริมาณการขนส่ง เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าน้ำมันเครื่องบินที่เพิ่มสูงขึ้น จากราคาน้ำมันที่สูงกว่าปีก่อน 9.7%

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
เว็บไซต์ : https://www.thairath.co.th/

ผู้นำเสนอข่าว

Hnoy

Written by:

3,688 Posts

View All Posts
Follow Me :

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *