ในช่วงส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ เป็นเรื่องปกติที่จะต้องพูดถึงเทรนด์เทคโนโลยีที่จะเกิดขึ้นในปีนั้นๆ เพราะเป็นโอกาสที่จะได้เห็นถึงความเป็นไปของโลกเทคโนโลยีตลอด 12 เดือนข้างหน้า
เทคโนโลยีประเภทใดที่จะได้รับความสนใจมากที่สุด และมีแนวโน้มให้ผู้คนที่เกี่ยวข้องกับวงการเทคโนโลยีต้องเตรียมความพร้อมแต่เนิ่นๆ คืออะไร ทั้งหมดนี้คือเทรนด์เทคโนโลยีที่น่าสนใจในปี 2023 นี้
การประกาศรีแบรนด์จากเฟซบุ๊กไปเป็นเมตา ได้ปลุกให้ทั่วทั้งโลกหันมาให้ความสนใจกับคำว่าเมตาเวิร์ส (Metaverse)
แม้ในความเป็นจริงเมตาเวิร์สของเมตาจะยังไม่สามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัทได้มากนักก็ตาม แต่ในปี 2023 เมตาก็จะยังคงลงทุนในด้านเมตาเวิร์สต่อไป โดยใช้งบประมาณราว 20 เปอร์เซ็นต์ของต้นทุนและค่าใช้จ่ายให้กับแผนก Reality Labs
![เทรนด์เทคโนโลยีที่น่าจับตามองในปี 2023](https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04aoUb1Kqx6cAfX3o6eKHa4DsRDTDhkT.jpg)
ทั้งนี้ คนทั่วโลกอาจมองว่า เมตาล้มเหลวอย่างมากในปี 2022 แต่เมตาก็มีมุมมองของตัวเองในแง่ดีว่า เมตาประสบความสำเร็จจากการเปิดตัว Meta Quest Pro ซึ่งเป็นแว่นตา Virtual reality ระดับไฮเอนด์ และความนิยมบน Quest Store กำลังเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นหลักฐานว่าเมตา และอุปกรณ์ของพวกเขากำลังเดินทางมาถูกทางแล้ว
นอกเหนือจากเมตาแล้ว บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำที่ให้ความสนใจกับเมตาเวิร์ส ก็จะมี ไมโครซอฟท์, อินวิเดีย, เอพิค เกม ไปจนถึงบริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีในจีนอย่างติ๊กต่อก, อาลีบาบา และเทนเซ็นต์ เป็นต้น
อย่างไรก็ดี การที่จะได้เห็นเมตาเวิร์สที่สำเร็จเป็นรูปธรรมจะยังคงไม่ได้เห็นในปี 2023 เพราะการพัฒนาโลกเมตาเวิร์ส น่าจะต้องกินเวลาไม่ต่ำกว่า 4-5 ปี เพียงแต่ว่า ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับเมตาเวิร์สในปี 2023 ก็คงได้เห็นกิจกรรมใหม่ๆ มีการขยายจากโลกจริงไปยังโลกเสมือนมากขึ้น ไปจนถึงนวัตกรรมที่อาจเข้ามาเกื้อหนุนโลกเมตาเวิร์ส เช่น การเล่นเกม, การฝึกอบรม และการศึกษา เป็นต้น
สำหรับผู้เชี่ยวชาญในโลกเทคโนโลยี เชื่อว่า เมตาเวิร์สน่าจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2030 และจะเป็นเทรนด์ใหม่ของทศวรรษหน้า
Sustainable Technology
ความล้ำหน้าทางเทคโนโลยีอาจไม่ใช่สิ่งเดียวที่จะเป็นเทรนด์ในปี 2023 แต่เรื่องของเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืนก็เป็นเรื่องสำคัญ โดยในปี 2023 เราอาจได้เห็นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลกพูดถึงเรื่องของความยั่งยืนมากขึ้น ผ่านกรอบของการจัดการการปล่อยมลพิษ และมีการให้ความรู้เพิ่มมากขึ้นว่า ส่วนประกอบของอุปกรณ์ไอทีทั้งหมดมาจากไหน ควรบริโภคอย่างไร ให้ทุกการผลิตที่มีการใช้ทรัพยากรของโลกใบนี้คุ้มค่าที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
หุ่นยนต์ที่มีความเป็นมนุษย์มากขึ้น
มีความเป็นไปได้ว่าในปี 2023 หุ่นยนต์จะมีลักษณะคล้ายกับมนุษย์มากขึ้น ทั้งในด้านรูปลักษณ์ หน้าตา และความสามารถเฉพาะตัวของหุ่นยนต์
หุ่นยนต์ในปี 2023 มีโอกาสถูกหยิบไปใช้ในโลกแห่งความเป็นจริงมากขึ้น เช่น การทำงานด้านบริการ การช่วยเหลือผู้สูงอายุ และการทำงานที่มีความซ้ำซากในโรงงานและอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ เพื่อให้มนุษย์ขยับไปทำงานที่มีความสลับซับซ้อนมากขึ้น
หนึ่งในบริษัทที่มุ่งเน้นด้านการพัฒนาหุ่นยนต์มากที่สุดบริษัทหนึ่ง นั่นก็คือ เทสลา โดยจะเห็นได้จากความคืบหน้าที่เทสลานำมาอัปเดตในงาน Tesla AI Day ซึ่งจัดเป็นประจำช่วงเดือนกันยายนของทุกปี
![เทรนด์เทคโนโลยีที่น่าจับตามองในปี 2023](https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04aoUb1Kqx6cAfX3o6U9wVdETuRJXZH5.jpg)
ในปี 2022 อีลอน มัสก์ ได้เปิดตัวต้นแบบของหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ ที่มีชื่อว่า Optimus พร้อมกับบอกด้วยว่า เทสลา จะเริ่มวางจำหน่ายหุ่นยนต์ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า โดยสามารถทำงานที่หลากหลายได้ ไม่ว่าจะเป็น การรดน้ำต้นไม้ ยกของ และอาจพัฒนาไปจนถึงขั้นเป็นหุ่นยนต์พ่อบ้าน
Web3
เทคโนโลยีบล็อกเชนจะก้าวหน้าอย่างมากในปี 2023 เนื่องจากบริษัทต่างๆ สร้างผลิตภัณฑ์และบริการแบบกระจายอํานาจมากขึ้น
ยกตัวอย่างเช่น การจัดเก็บไฟล์ของผู้คนในเวลานี้ ต่างล้วนผูกติดไว้กับเทคโนโลยีคลาวด์ แต่หากเรากระจายอํานาจการจัดเก็บข้อมูลและเข้ารหัสข้อมูลนั้นโดยใช้บล็อกเชน ข้อมูลของเราไม่เพียงแต่ปลอดภัยกว่าเท่านั้น แต่เราจะมีวิธีใหม่ในการเข้าถึงและวิเคราะห์ข้อมูลนั้นด้วย
![เทรนด์เทคโนโลยีที่น่าจับตามองในปี 2023](https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04aoUb1Kqx6cAfX3o6qJp9O2RZIYuoEh.jpg)
ส่วน NFT ซึ่งมีความยึดโยงเกี่ยวกับ Web3 แม้ในปี 2022 อาจเป็นปีที่ NFT ฟุบและเงียบเหงาเป็นอย่างมาก แต่ในปี 2023 เราอาจได้เห็นการพลิกแพลงของ NFT ในหลากหลายรูปแบบ เช่น ตั๋วคอนเสิร์ตแบบ NFT ที่อาจทำให้ผู้ถือตั๋วสุดพิเศษในรูปแบบ NFT นี้ สามารถเข้าถึงโซนพิเศษที่จำกัดเฉพาะศิลปินอย่างเดียวเท่านั้น รวมถึงการเป็นของที่ระลึกถึงศิลปินคนโปรด เป็นต้น
Artificial Intelligence และ Machine Learning
ปัญญาประดิษฐ์และเทคโนโลยีแมชชีนเลิร์นนิงมีความก้าวหน้าอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาและมีแนวโน้มที่จะก้าวหน้าต่อไปในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าโดยเฉพาะในปี 2023
สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจเป็นพิเศษคือ การประมวลผลภาษาธรรมชาติ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการใช้ปัญญาประดิษฐ์ เพื่อให้คอมพิวเตอร์เข้าใจและสร้างภาษาที่เหมือนมนุษย์ ซึ่งในเวลานี้เริ่มเห็นได้มากขึ้นจากการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดของแชตบอต เครื่องมือที่เกี่ยวข้องกับการแปลภาษา และระบบจดจำเสียง (voice recognition systems) เป็นต้น
![เทรนด์เทคโนโลยีที่น่าจับตามองในปี 2023](https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04aoUb1Kqx6cAfX3o6Mv2eaeM1xYjFDr.jpg)
สำหรับแชตบอต เชื่อว่า ในปี 2023 น่าจะได้เห็นอะไรดีๆ จาก ChatGPT และแชตบอตที่พัฒนาโดยกูเกิล เพราะดูเหมือนว่ากูเกิลก็เดือดร้อนไม่น้อยจากการถือกำเนิดของ ChatGPT ซึ่งมีโอกาสเป็นภัยความมั่นคงทางเทคโนโลยี
ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่งาน Google I/O 2023 น่าจะมีโอกาสได้เห็นตัวต้นแบบของแชตบอตที่มีความคล้ายคลึงกับ ChatGPT แต่เป็นผลิตภัณฑ์ที่มาจากกูเกิล
พร้อมกันนี้ ยังมีปัญญาประดิษฐ์ที่เติบโตอย่างมากขึ้นแน่นอนในปี 2033 นั่นคือ ระบบที่เกี่ยวข้องกับการจดจำรูปภาพ เพื่อระบุและจําแนกวัตถุในรูปภาพและวิดีโอ รวมถึงความสามารถในด้านการวิเคราะห์ทางสถิติ เพื่อคาดเดาผลลัพธ์ในอนาคต ซึ่งเกี่ยวพันกับงานด้านการตลาด งานด้านสาธารณสุข การเงิน และด้านการลงทุน.